Man kann unter diesem Aspekt des Ka

Man kann unter diesem Aspekt des Kamerablicks zunächst zwischen objektiver und subjektiver Perspektive, zwischen dem objektiven und dem subjektiven Bild unterscheiden :
Das objektive Bild ist durch einen Außenstandpunkt definiert (objektive Perspektive).
Das subjektive Bild ist demgegenüber durch die Perspektive einer der handelnden Figuren charakterisiert (subjektive Perspektive).
Die Grenzen sind allerdings fließend. Einstellungssequenzen zeichnen sich fast immer durch den Wechsel der Perspektiven aus, durch den Wechsel zwischen objektiven und subjektiven Bildern. Eine wichtige Funktion kommt dabei einem Bildtypus zu, den der französische Filmtheoretiker JEAN MITRY das halbsubjektive (semi-subjektiven) Bild genannt hat, ein Bild, bei dem die Kamera nicht mit einer Figur verschmilzt, sondern diese Figur durchaus zeigt, aber dennoch zugleich zeigt, was diese Figur sieht (halbsubjektive Perspektive).

Results (Thai) 1:

หนึ่งสามารถแยกแรกของทั้งหมด ภายใต้สายตาของกล้องระหว่างวัตถุประสงค์และมุมมองตามอัตวิสัยระหว่างวัตถุประสงค์และภาพตามอัตวิสัยด้านนี้: มีกำหนดวัตถุประสงค์ (มุมมองวัตถุประสงค์) โดยภายนอกมองรูปตามอัตวิสัยเป็นความแตกต่าง โดยมุมมองของตัวเลขค้า (มุมมองตามอัตวิสัย) เส้นขอบจะอย่างไรก็ตามน้ำ ตั้งค่าลำดับลักษณะเกือบตลอดเวลาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของมุมมอง การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และภาพตามอัตวิสัย ฟังก์ชันสำคัญคือ ชนิดของภาพ การ theorist ภาพยนตร์ฝรั่งเศสฌอง MITRY เรียกว่าครึ่งตามอัตวิสัย (กึ่งตามอัตวิสัย) รูป รูปที่ผสานกล้อง มีตัวเลข ตัวเลขนี้ดีแสดง แต่ในขณะเดียวกันยังแสดงว่าตัวเลขนี้ (ครึ่งมุมมองตามอัตวิสัย)

Results (Thai) 2:

หนึ่งสามารถจากจุดของการจ้องมองกล้องครั้งแรกระหว่างมุมมองที่วัตถุประสงค์และอัตนัยนี้ความแตกต่างระหว่างวัตถุประสงค์และอัตนัยที่ภาพ :. ภาพวัตถุประสงค์คือมุมมองกลางแจ้งที่กำหนดไว้ (มุมมองวัตถุประสงค์) ความคมชัดของภาพอัตนัยผ่านมุมมองของตัวเลขการแสดงโดดเด่น ( มุมมองส่วนตัว). เขตแดนที่มีการกำหนดไว้ว่าไม่ ลำดับที่การตั้งค่าเกือบจะโดดเด่นอยู่เสมอโดยการแลกเปลี่ยนมุมมองโดยการสลับระหว่างภาพวัตถุประสงค์และอัตนัย ฟังก์ชั่นที่สำคัญคือประเภทของภาพหนึ่งที่ทฤษฎีหนังฝรั่งเศส JEAN Mitry ได้เรียกว่ากึ่งอัตนัย (กึ่งอัตนัย) ภาพภาพที่กล้องผสานกับรูป แต่ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นมาก แต่ในเวลาเดียวกันแสดงให้เห็นว่า นี้คืออะไรลักษณะรูป (มุมมองกึ่งอัตนัย)

Results (Thai) 3:

ในส่วนนี้คุณสามารถ kamerablicks ครั้งแรกระหว่างมุมมองของปรนัยและอัตนัยและปรนัยและอัตนัยคือความแตกต่างระหว่างภาพ : ภาพที่กำหนดโดยมีวัตถุประสงค์ enstandpunkt Au ß ( ปรนัย ) ในมุมมองของภาพที่เป็นอัตนัย ( เป็นมุมที่คนขัดจังหวะ )

แต่ข้อจำกัดของความสามารถ einstellungssequenzen วาดเกือบเสมอโดยการเปลี่ยนสลับระหว่างมุมมองภาพโดยวัตถุประสงค์และอัตนัย เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานเป็น bildtypus ซึ่งทำให้ฝรั่งเศส filmtheoretiker mitry halbsubjektive ( ที่รู้จักกันเป็นภาพกึ่งนามธรรม )ในรูปกล้องไม่รวมแต่ในบทบาทนี้ , แต่ยังเป็นรูปที่ดู ( halbsubjektive ( เบื้องหน้า )